ตัวลครคลาสสิกจากเมคอัพเอฟเฟกต์

ตัวลครสุดคลาสสิกที่สร้างจากเมคอัพเอฟเฟกต์

          ก่อนที่เราจะมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟฟิกหรือเอไอที่ก้าวล้ำ จนทุกวันนี้การจะสรรค์สร้างตัวละครสุดเหนือจินตนาการเพียงปรายนิ้วพิมพ์แบบในยุค มนต์วิเศษที่เคยใช้สะกดสายตาคนดูในครั้งอดีตก็คนหนีไม่พ้นเทคนิคพิเศษในการแต่งหน้าหรือเรียกสั้นๆว่า “เมคอัพเอฟเฟกต์” 

          เมื่อจินตนาการของมนุษย์ถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยี ความสร้างสรรค์ตัวลครต่างๆจึงแบ่งบานออกมาถึงแม้อุปกรร์และเทคนิคสมัยนั้นจะมีข้อจำกัดแต่ด้วยเท่าที่มีอยู่ก็มากเกินพอที่จะสร้างความตื่นตาให้กับผู้คนในอดีต จนทำให้งานเมคอัพเอฟเฟกต์บางอันยืนหยัดเหนือการเวลา กลายเป็นภาพจำสุดอมตะที่ยังคงส่งอิทธิพลให้กับงานในยุคปัจจุบัน 

Frankenstein (1931 film)

เมคอัพโดย Jack Pierce ใช้โครงหน้าสี่เหลี่ยมและรอยเย็บขนาดใหญ่ กลายเป็นภาพจำของ “ปีศาจแฟรงเกนสไตน์” ที่ทุกคนรู้จัก

The Mummy (1932)

Boris Karloff งานเมคอัพเอฟเฟกต์ใช้พันผ้าพร้อมเพนท์ผิวให้แห้งแตก เป็นงานที่สร้างภาพจำให้หนังมัมมี่อียิปต์จนมีผู้คนมากมากชื่นชอบ

Nosferatu (1922)

แม้จะเป็นหนังเงียบขาวดำ แต่ Max Schreck กับการแต่งหน้าเป็น Count Orlok ก็ยังติดตาคนดูมาจนปัจจุบัน ด้วยผิวซีดโครงหน้าแหลม ฟันยาว และเล็บแหลมคม

The Wolf Man (1941)

ack Pierce ใช้การติดขนทีละเส้นและเพนท์ใบหน้า ทำให้ Lon Chaney Jr. กลายร่างเป็นหมาป่าได้อย่างสมจริงเป็นงานเมคอัพเอฟเฟกต์ที่แสดงให้เห้นถึงความอดทนพยายาม

Night of the Living Dead (1968)

George A. Romero แทบต้องเรียกว่าบิดาแห่งซอมบี้ ปั้นภาพซอมบี้สมัยใหม่ด้วยผิวซีด ดวงตาไร้ชีวิต และการเพนท์แบบเรียบง่ายแต่หลอนติดตา

The Wizard of Oz (1939)

สีสันสดใสของ Wicked Witch of the West, Scarecrow, Tin Man และ Cowardly Lion ใช้เมคอัพและ Prosthetic ที่ล้ำหน้าสำหรับยุคนั้น

           แม้การสร้างตัวละครเหล่านนี้จะง่ายมากถ้าใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าแบบในสมัยนี้ แต่ในอดีตผลงานแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาไม่ง่ายนักด้วยข้จำกัดหลายๆอย่าง แต่ข้อจำกัดพวกนั้นก็สร้างผลงานที่ก้สวล้ำเกินกว่ากาลเวลาจะกลืนกินได้ และกลายเป็นรากฐานของผลงานใหม่ๆมากมายในปัจจุบัน